เบิกเงิน 60, 000 บาท เพื่อใช้วางประกันประชาชน 3 คน ที่ถูกสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 สั่งฟ้องในฐานความผิดฝ่าฝืน พ. ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 7 ส. ค. 64 ซึ่งเป็นวันนัดหมายชุมนุมโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก คดีนี้เดิมในชั้นพนักงานสอบสวน ศาลแขวงดุสิตเคยให้ประกันด้วยการสาบานตนโดยไม่ต้องวางหลักประกัน แต่ในชั้นสั่งฟ้องโดยอัยการ ศาลให้วางหลักประกันคนละ 20, 000 บาท รวม 3 คน 60, 000 บาท 3. รับเงินประกันจำนวน 300, 000 บาท คืนจากศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเงินประกันคดี 112 จำนวน 2 คดีของ บาส มงคล ถิระโคตร ในชั้นฝากขังของพนักงานสอบสวน ทั้งสองคดีนี้อัยการได้สั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 25 ส. และกองทุนฯได้วางประกันใหม่ในชั้นอัยการไปแล้ว นายประกันจึงทำเรื่องขอรับเงินประกันชั้นพนักงานสอบสวนคืน ภายหลังยอดเบิกจ่ายและรับคืนข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 2, 722, 769. 05 บาท #กองทุนราษฎรประสงค์ซึ่งใน 2 กรณีนี้ ทางกองทุนราษฎรประสงค์ ต้องใช้เงินกว่า 392, 500 บาท ปัจจุบัน มียอดเงินคงกว่า 2. 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ (29 ก. )
7 ล้านบาท ซึ่งถ้าต้องประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด อาจต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดไปอีกที่ต้องใช้เงินเพื่อนำรถออกมาอีกกว่า 200 คัน นอกจากนี้ ยังพบว่า ชื่อบัญชีที่ใช้ในการรับบริจาคนั้น คือ ชลิตา บัณฑุวงศ์ และ น. ส.
น้ํา มัน เกียร์ รถ เก๋ง, 2024