มีความหนาให้เลือกที่ 8 มม., 11 มม. และ 18 มม. ทั้งนี้เนื่องจากในปัจจุบันการซื้อวัสดุไม้มาติดตั้งจะมีค่าใช้จ่ายสูงทั้งตัววัสดุและการดูแลรักษา การ ทำฝ้า ไม้จึงมักใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการเน้นความสวยงามโดยเฉพาะ ภาพ: ตัวอย่างการแต่งบ้านด้วยฝ้าไม้ แผ่นฝ้าเพดานยิปซัม แผ่นฝ้ายิปซัมโดยทั่วไปผลิตจากผงแร่ยิปซัมอัดแน่น ประกบด้วยกระดาษแข็ง ขนาดโดยมาตรฐานมักเป็น 0. 6 x 0. 6 ม. และ 0. 6 x 1. 2 ม. ส่วนความหนาจะมี 8 มม., 9 มม., 12 มม. และ 16 มม.
สำหรับฝ้าเพดานโดยทั่วไปมีดังนี้ 1. ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีคุณสมบัติที่ไม่ติดไฟ แข็งแรงทนทาน ทนต่อความชื้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อเสียคือ เกิดร่องระหว่างรอยต่อระหว่างแผ่นซึ่งดูไม่สวยงาม เมื่อกระเบื้องแตกร้าวแล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งแผ่น จึงนิยมนำกระเบื้องแผ่นเรียบมาใช้ทำฝ้าเพดานในบริเวณที่ไม่เน้นความสวยงามมากนักเช่น ชายคาบริเวณบ้าน โรงรถ เป็นต้น ส่วน ฝ้ากระเบื้องแผ่นเรียบสำหรับฝ้าชายคา นั้น มีความคงทน ราคาถูก อาจจะไปแพงตรงโครงเคร่า แต่โดยรวมราคาก็ไม่สูงนัก 2. ฝ้าเพดานแบบไม้ ฝ้าชนิดนี้เหมาะแก่การตกแต่งเพื่อความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรงทนทาน เหมาะกับบ้านที่เป็นสไตล์ไม้ หรือบ้านที่ต้องการปรับเปลี่ยนให้ดูโมเดิร์น ฝ้าชนิดนี้ถึงจะสวยงาม แต่ก็ติดไฟได้ง่าย ราคาสูง ที่สำคัญต้องดูแลเป็นพิเศษในเรื่องปลวก สำหรับใครที่นำฝ้าไปติดภายนอกบ้าง ควรเว้นช่องเล็กๆนิดนึงเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม้จะได้ไม่บิดงอภายหลัง 3. ฝ้าเพดานแบบเฌอร่า ฝ้าชนิดนี้ก็เหมาะแก่บ้านที่ต้องการความสวยงามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ้าภายนอก ฝ้าห้องน้ำ ฝ้าห้องครัว หรือห้องที่มีความชื้น มีคุณสมบัติที่ทนทานน้ำและความชื้น มีความสะดวกในการขนยาน และเมื่อติดตั้งเสร็จจะดูเรียบเนียน แถมยังราคาไม่สูงอีกด้วย Featured Posts Recent Posts Archive Search By Tags Follow Us
ฝ้าเพดานแขวน (ที-บาร์) ฝ้าเพดานแขวน หรือ T-bar เป็นประเภทฝ้าเพดานที่นิยมใช้ค่อนข้างมาก เนื่องจากติดตั้งสะดวก ราคาถูกเมื่อเทียบกับฝ้าแบบอื่นๆ ดูแลรักษาง่าย สามารถเปิดฝ้าขึ้นไปดูแล ซ่อมแซมงานระบบได้ และข้อสำคัญหากฝ้าชิ้นใดชำรุดก็สามารถเปลี่ยนที่ชำรุดได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดค่ะ ฝ้าเพดานแขวนจะทำการติดตั้งโครงคร่าวเป็นรูปตัว T คว่ำ เป็นช่องตารางสี่เหลี่ยมเท่าๆ กัน เพื่อวางแผ่นฝ้ายิปซั่ม โดยจะมี 2 ขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ ได้แก่ 60x60 ซม. และ 60x120 ซม. ฝ้าเพดานชนิดนี้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก อาคารสำนักงาน หรืออาคารที่เน้นการซ่อมบำรุงได้ง่าย ทั้งนี้จะไม่เหมาะกับอาคารสูงๆ เพราะหากเกิดลมพัดแรงหรือเกิดแผ่นดินไหว อาจทำให้ฝ้าเพดานหลุดลงมาเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานค่ะ หรือถ้าต้องการติดตั้งในพื้นที่ ที่มีความชื้นสูง ควรเลือกฝ้า T- bar แบบกันชื้นเพื่อป้องกันเชื้อราค่ะ 3. ฝ้าหลุม ฝ้าเล่นระดับหรือฝ้าหลุมเหมาะสำหรับห้องหรืออาคารที่ต้องการความสวยงาม ความหรูหรา เช่น บ้าน รีสอร์ท ห้องประชุม และห้องสำนักงาน เป็นต้น ฝ้าเล่นระดับทำให้พื้นที่ในบริเวณนั้นดูมีมิติ ดึงดูดสายตา และยังทำให้รู้สึกระยะพื้นถึงฝ้าสูงมากขึ้นด้วย ตามปกติแล้วหากเลือกใช้ฝ้าชนิดนี้ ก็มักจะมีการใช้คิ้วบัวตกแต่งเพิ่มค่ะ หรือถ้าใช้ฝ้าหลุมก็สามารถซ่อนงานระบบ ซ่อนเครื่องปรับอากาศ ติดตั้งโคมไฟระย้า เพิ่มความสวยงามได้ด้วย 4.
ฝ้าเพดานซ่อนระบบไฟ ฝ้าเพดานซ่อนระบบไฟ จะคล้ายๆ กับฝ้าหลุมค่ะ มีการเว้นพื้นที่ฝ้าเพื่อวางแนวไฟให้สะท้อนจากฝ้ากระทบบริเวณพื้นที่ ที่ต้องการใช้งาน เป็นการเพิ่ม Shade & Lighting สร้างบรรยากาศในห้องให้นุ่มนวล สบายตา และยังเพิ่มความหรูหราด้วยค่ะ 5. ฝ้าอะคูสติก ฝ้าอะคูสติกเป็นฝ้าที่มีการดูดซับเสียง ป้องกันเสียงสะท้อนได้ดีมากกว่าฝ้าชนิดอื่น ในปัจจุบันมีฝ้าอะคูสติกให้เลือกใช้หลายแบบ หลายประเภท อาทิ Acoustic Board, M board ฟองน้ำ เป็นต้น ส่วนมากนิยมใช้ในห้องดนตรี ห้องประชุมสัมนา โรงหนัง หรือห้องจัดแสดงต่างๆ ที่ต้องการลดการสะท้อนของเสียงเป็นพิเศษค่ะ 6. ฝ้าระแนง ฝ้าระแนงมักนิยมใช้เพื่อการตกแต่ง เพิ่มความสวยงาม หรือใช้สำหรับพรางงานระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซ่อนท่อ สายไฟ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความโปร่งช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ซ่อมแซมง่ายค่ะ ฝ้าระแนงให้ความรู้สึกทันสมัย มีดีไซน์ และหากเลือกใช้ระแนงไม้ยังเพิ่มความอบอุ่นได้ด้วย ฝ้าประเภทนี้จะใช้ในอาคารสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เช่น ล็อบบี้ โถงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือสถานีรถไฟ ฯลฯ 7. ฝ้าติดตั้งพิเศษ ฝ้าประเภทนี้มีความพิเศษกว่าฝ้าที่กล่าวมาทั้งหมดค่ะ เนื่องจากเป็นฝ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามโดยเฉพาะ ในแต่ละสเปซ แต่ละอาคาร ก็จะมีการออกแบบฝ้าที่แตกต่างกัน สร้างความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจให้กับพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะ มักจะพบบ่อยได้ในงานโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และรีเทลช็อป ฝ้าชนิดนี้มักจะมีการผสมวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น ใช้กระจก อะคริลิก ไม้ ผ้า หรือแม้แต่ผ้าใบ ล้วนขึ้นอยู่กับการออกแบบค่ะ ทั้งนี้จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งด้วย เนื่องจากมีความซับซ้อนมากกว่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:, บทความทั้งหมด
Home Buyers Teams 19/04/2021 อยากเลือกอ่าน? (TL;DR) Home Buyers มาพร้อมกับเกร็ดความรู้ดีๆ ในเรื่องของประเภทฝ้าเพดาน และข้อดีของแต่ละประเภท ถ้าหากกำลังสงสัยว่าฝ้าแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับการใช้งานของเรากันนะ? ต้องไม่พลาดบทความนี้ค่ะ ฝ้าเพดานเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อบ้านและงานสถาปัตยกรรม อาคารจะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ หากขาดการติดตั้งฝ้าเพดาน โดยประโยชน์ของฝ้าเพดานก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้งานออกมาเรียบร้อย สวยงาม ซ่อนงานระบบต่างๆ ไว้เหนือฝ้า ช่วยป้องกันแมลง ฝุ่นต่างๆ รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิในห้อง ตามปกติแล้วเราจะแบ่งประเภทฝ้าเพดานเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ แบ่งตามประเภทการติดตั้งและแบ่งตามวัสดุที่ใช้ติดตั้ง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักประเภทฝ้าเพดานตามการติดตั้ง ซึ่งเป็นแบบที่นิยมและใช้กันมากที่สุดกันค่ะ 1.
หนา 8 มม. สำหรับตีเว้นร่อง และชนิดแผ่นหลายขนาด ได้แก่ 0. 6 X 0. 6 ม., 0. 2 ม., 0. 6 x 2. 4 ม. และ 1. 2 x 2. ซึ่งมีความหนา 3. 5 มม. 4 มม. และ 6 มม.
ทำ ฝ้าเพดาน แบบไหนดี? คำถามนี้รู้สึกว่าได้ยินบ่อยมากครับสำหรับคนที่กำลังสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้าน หลายๆคนก็สับสนว่าจะเลือกฝ้าแบบไหนดีสำหรับบ้านตัวเอง คนโน้นก็บอกอย่างนี้ คนนี้ก็บอกอย่างนั้น! ถ้าถามผมๆก็ว่ามันดีหมดนั่นแหละครับ อยู่ที่ความชอบของเราเพราะมันเป็นบ้านของเรา เราทำแล้วเราชอบมันก็จบ แต่ผมจะลองแนะนำให้ดูนะครับว่า ฝ้าเพดาน แบบไหนบ้างที่นิยมทำกันและฝ้าแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ทั้งเรื่องการใช้งาน ความทนทาน การซ่อมแซมดูแลรักษา มันยากง่ายแตก ต่างกันอย่างไร และมีจุดดีจุดด้อยอย่างไร… 1. ฝ้าฉาบเรียบ ฝ้าเพดาน แบบนี้นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน นิยมใช้ติดตั้งเป็นฝ้าภายในบ้าน ผมคิดว่าแทบทุกโครงการที่ทำบ้านจัดสรร แทบจะ100เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ฝ้าแบบนี้เป็นฝ้าภายใน ไม่ว่าบ้านระดับสิบล้านขึ้นไปก็ตาม เพราะอะไรหรือครับ?
น้ํา มัน เกียร์ รถ เก๋ง, 2024